- พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ ให้ไว้ ณ วันใด
- ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ค. ๓๐ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
- ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘ ง.๓๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๘
ตอบ ข. ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๘
- “ตราสารหนี้” หมายความว่าอะไร
- ตั๋วเงินคลัง ค. พันธบัตรและตราสารอื่นที่มีผลก่อให้เกิดหนี้
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะสั้นที่กระทรวงการคลังเป็นผู้ออก คือ
- ตั๋วเงินคลัง ค. พันธบัตร
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน ง. หนี้สาธารณะ
ตอบ ก. ตั๋วเงินคลัง
- เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาว คือ
- ตั๋วเงินคลัง ค. พันธบัตร
- ตั๋วสัญญาใช้เงิน ง. หนี้สาธารณะ
ตอบ ค. พันธบัตร
“พันธบัตร” หมายความว่า เอกสารการก่อหนี้ผูกพันระยะยาวที่มีอายุนับแต่วันที่ออกตั้งแต่สิบสองเดือนขึ้นไป
- “สถาบันการเงินภาครัฐ” หมายความว่า
- สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมเกษตรกรรม
- สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมพาณิชยกรรม
- สถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งขึ้นสำหรับให้กู้ยืมเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ใครเป็นผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ง. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. ๒๕๔๘ มีกี่หมวด กี่มาตรา
- 4 หมวด 37 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ค. 5 หมวด 73 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- 5 หมวด 77 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล ง. 5 หมวด 37 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 5 หมวด 37 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล
- หน่วยงานใดเป็นผู้มีอำนาจในการกู้เงินหรือค้ำประกันในนามรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยแต่ผู้เดียว โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
- คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตอบ ก.รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- รัฐวิสาหกิจที่ไม่ใช่นิติบุคคล หากมีความจำเป็นต้องกู้เงินเพื่อใช้ดำเนินกิจการให้กระทรวงเจ้าสังกัดมีอำนาจกู้ให้ได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากใคร
- รัฐมนตรี
- คณะรัฐมนตรี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตอบ ก. รัฐมนตรี
- จากข้อ 8 ถ้าเป็นการกู้เงินเพื่อการลงทุนรัฐวิสาหกิจจะต้องเสนอแผนงานลงทุนให้ใครพิจารณาให้ความเห็นชอบก่อน
- รัฐมนตรี
- คณะรัฐมนตรี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตอบ ง. คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ

- จากข้อ 8 หากเป็นการกู้เงินเกินห้าสิบล้านบาท จะต้องได้รับอนุมัติจากใครด้วย
- รัฐมนตรี
- คณะรัฐมนตรี
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
- คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ตอบ ข. คณะรัฐมนตรี
- การกู้เงินโดยวิธีการออกตราสารหนี้ ให้ออกได้ตามสิ่งใด
- จำนวนเงิน ค. วิธีการออกตราสารหนี้ที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด
- ระยะเวลา ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ใครมีอำนาจลงนามในสัญญากู้ หนังสือหรือสัญญาค้ำประกัน หรือตราสารหนี้
- คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
- รัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
- คณะรัฐมนตรี
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
ตอบ ข.รัฐมนตรีหรือผู้ซึ่งรัฐมนตรีมอบหมาย
- กระทรวงการคลังต้องรายงานการกู้เงินและการค้ำประกันที่กระทำในปีงบประมาณที่ล่วงมาแล้วให้รัฐสภาทราบภายในกี่วัน
- 30 วัน ค. 45 วัน
- 60 วัน ง. 90 วัน
ตอบ ข.60 วัน
- ใครมีอำนาจปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะโดยดำเนินการกู้เงินรายใหม่เพื่อชำระหนี้เดิม
- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
- คณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ
- กระทรวงการคลัง
- คณะรัฐมนตรี
ตอบ ค. กระทรวงการคลัง
- ข้อใด ไม่ใช่ วัตถุประสงค์การกู้เงินของกระทรวงการคลัง
- ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ ค. พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
- ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ ง. พัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
ตอบ ค. พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า
มาตรา ๒๐ ให้กระทรวงการคลังกู้เงินได้เฉพาะเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดดังต่อไปนี้
(๑) ชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้
(๒) พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
(๓) ปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะ
(๔) ให้หน่วยงานอื่นกู้ต่อ
(๕) พัฒนาตลาดตราสารหนี้ในประเทศ
- การกู้เงินเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกระทรวงการคลังกระทำได้เมื่อใด
- จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินนอกเหนือจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
- จำเป็นต้องใช้เป็นเงินตราต่างประเทศ
- จำเป็นต้องกู้เงินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินของประเทศ
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- การกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้สาธารณะของกระทรวงการคลังกระทำได้เฉพาะเพื่ออะไร
- การประหยัด ค. กระจายภาระการชำระหนี้
- ลดความเสี่ยงในอัตราแลกเปลี่ยน ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- การกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณหรือเมื่อมีรายจ่ายสูงกว่ารายได้ในปีงบประมาณหนึ่ง ให้กระทรวงการคลังกู้เป็นเงินบาทไม่เกินวงเงินร้อยละเท่าใด
- ร้อยละ 20 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ใช้บังคับอยู่ในขณะนั้นและงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม
- ร้อยละ 50 ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น
- ร้อยละ 80 ของงบประมาณรายจ่ายที่ตั้งไว้สำหรับชำระคืนเงินต้น
- ถูกเฉพาะข้อ ก และ ค
ตอบ ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ค
- กระทรวงการคลังทยอยกู้เงินเป็นการล่วงหน้าได้ไม่เกินกี่เดือน เมื่อเห็นว่าไม่สมควรกู้เงินเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ที่มีจำนวนเงินมาก
- ไม่เกิน 6 เดือน ค. ไม่เกิน 5 เดือน
- ไม่เกิน 3 เดือน ง. ไม่เกิน 12 เดือน
ตอบ ง. ไม่เกิน 12 เดือน
