
- วรรณกรรมใดสะท้อนถึงปัญหาสังคมและการเมืองไทยภายหลังการปกครอง
ก. ข้างหลังภาพ ข. แผ่นดินนี้ของใคร
ค. ผู้ดี ง. ละครแห่งชีวิต
ตอบ ข. แผ่นดินนี้ของใคร - แนวพระราชดำริ “ทฤษฏีใหม่” ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจัดสรรพื้นที่การเกษตรให้เป็นสัดส่วนเท่าใด
ก.แหล่งน้ำ 30% ปลูกข้าว 50% ปลูกพื้นอื่นๆ 10% อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10 %
ข.แหล่งน้ำ 30% ปลูกข้าว 45% ปลูกพื้นอื่นๆ 10% อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 15 %
ค.แหล่งน้ำ 40% ปลูกข้าว 40% ปลูกพื้นอื่นๆ 10% อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10 %
ง.แหล่งน้ำ 30% ปลูกข้าว 30% ปลูกพื้นอื่นๆ 30% อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10 %
ตอบ ง.แหล่งน้ำ 30% ปลูกข้าว 30% ปลูกพื้นอื่นๆ 30% อยู่อาศัยและเลี้ยงสัตว์ 10 % - ข้อใดคือความหมายของคำซ้ำ
ก.คำที่มาจากภาษาอื่น
ข.คำซ้อนกันแล้วเกิดความหมาย
ค.คือคำเดียวกันซ้ำกันเพื่อเปลี่ยนแปลงความหมาย
ง.คำตั้งแต่สองคำซ้อนกันเป็นความหมายใหม่
ตอบ ค.คือคำเดียวกันซ้ำกันเพื่อเปลี่ยนแปลงความหมาย - ประโยคใดใช้คำกริยาถูกต้อง
ก.กองทัพส่งทหารไปขวางกั้นการโจมตีของข้าศึก
ข.ผู้จัดการกีดกันโครงการที่พนักงานเสมอให้พิจารณา
ค.กำแพงประเพณีใดๆ ก็ไม่อาจกีดกั้นความรักของเราได้
ง.รถยนต์ที่จอดอยู่นั้นขัดขวางการสัญจรของรถคันอื่น
ตอบ ข.ผู้จัดการกีดกันโครงการที่พนักงานเสมอให้พิจารณา - “งานจะสำเร็จได้ทุกคนต้องร่วมปรึกษาหารือกัน ร่วมกันทำงานไม่ใช่ต่างคนต่างคิด ต่างคนต่างทำ ถ้าเป็นเช่นนี้ย่อมประสบความสำเร็จได้ยาก” การทำงานที่ไม่ประสบความสำเร็จตรงกับสำนวนในข้อใด
ก. พายเรือคนละที ข. พายเรือในหนอง
ค. พายเรือทวนน้ำ ง. พายเรือในอ่าง
ตอบ ก. พายเรือคนละที
พายเรือทวนน้ำ หมายถึง ทำด้วยความยากลำบาก
พายเรือในหนอง พายเรือในอ่าง คือ คิด ทํา หรือพูดวกวนกลับไปกลับมา
พายเรือคนละที : ทํางานไม่ประสานกัน
- ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น วรรณคดีมีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในสมัยรัชกาลใด
ก. รัชกาลที่ 1 ข. รัชกาลที่ 3
ค. รัชกาลที่ 2 ง. รัชกาลที่ 4
ตอบ ข. รัชกาลที่ 3 - ข้อใดคือแนวคิดที่ได้จากเรื่อง “เราคือลูกแม่พระธรณี”
ก.ชีวิตนั้นดำเนินไปด้วยความหวังและความอดทน
ข.น้ำตาคือเพื่อนเราในทุกสถานการณ์ไม่ว่าสุขหรือทุกข์
ค.หน้าที่ความรับผิดชอบกับมนุษยธรรมนั้นบางครั้งอาจขัดแย้งกัน
ง.ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม
ตอบ ก.ชีวิตนั้นดำเนินไปด้วยความหวังและความอดทน - ข้อใดผิด
ก.นิทานอิหร่านราชธรรม ประพันธ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1
ข.สามก๊ก ถูกแปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 2
ค.หมอบรัดเลย์และคณะมิชชันนารี ออกหนังสือพิมพ์บางกอกรีคอร์เดอร์ในสมัยรัชกาลที่ 3
ง.รำพันพิลาป เป็น 1 ในผลงานนิราศ 9 เรื่องของสุนทรภู่
ตอบ ข. สามก๊ก ถูกแปลเป็นภาษาไทยครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 2
สามก๊ก แปลและเรียบเรียงเป็นภาษาไทยครั้งแรกโดยเจ้าพระยาพระคลัง (หน) ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อปี พ.ศ. 2345
- “ที่ ศธ 1325/573” อ่านว่าอย่างไร
ก.ที่สอทอหนึ่งสามสองห้าทับห้าร้อยเจ็ดสิบสาม
ข.ที่สอทอหนึ่งสามสองห้าทับห้าเจ็ดสาม
ค.ที่สอทอหนึ่งพันสามร้อยยี่สิบห้าทับห้าเจ็ดสาม
ง.ที่สอทอหนึ่งพันสามร้อยยี่สิบห้าทับห้าร้อยเจ็ดสิบสาม
ตอบ ข.ที่สอทอหนึ่งสามสองห้าทับห้าเจ็ดสาม
- ประโยคใดเป็นประโยคความรวม
ก.การเดินเล่นตอนเช้าเป็นการออกกำลังกาย
ข.ใครที่ยังไม่เคยเล่นกีฬาน่าจะลองเล่นดู
ค.เขานั่งอ่านหนังสือแทนที่จะไปเล่นกับเพื่อน
ง.คุณพ่อให้รางวัลเขาที่สอบได้คะแนนดี
ตอบ ค.เขานั่งอ่านหนังสือแทนที่จะไปเล่นกับเพื่อน
ประโยคความเดียวคือ เขานั่งอ่านหนังสือ + เขาไปเล่นกับเพื่อน สันธาน คือ แทนที่จะ
ประโยคความรวม (อเนกัตถประโยค) คือประโยคที่รวมเอาประโยคความเดียวตั้งแต่ ๒ ประโยคขึ้นไปมารวมกัน โดยใช้สันธานเป็นตัวเชื่อม
- ในยุคสมัยใดที่วรรณคดีไทยเริ่มได้รับอิทธิพลจากวรรณคดีตะวันตก
ก. รัชกาลที่ 4 ข. รัชกาลที่ 5
ค. รัชกาลที่ 6 ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ก. รัชกาลที่ 4
สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ปัจจุบัน หรือสมัยรับอิทธิพลตะวันตก ตั้งแต่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พ. ศ. ๒๓๙๔ ถึงปัจจุบัน เป็นสมัยที่วรรณคดีไทยได้รับอิทธิพลจากตะวันตก รูปแบบของวรรณคดี เนื้อเรื่อง ตลอดจนความคิดในการเขียนเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
- ข้อใดคืออุปลักษณ์โวหาร
ก. นาคาหน้าดั่งเป็น ดูเขม้นเห็นขบขัน
ข. นาวาหน้าอินทรี มีปีกเหมือนเลื่อนลอยโพยม
ค. น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง
ง. เรื่อยเรื่อยเรียมคอยแก้ว คลับคล้ายเรียวเหลียว
ตอบ ค. น้ำเงินคือเงินยวง ขาวพรายช่วงสีสำอาง
โวหารอุปลักษณ์ คือ การเปรียบว่าสิ่งหนึ่งเป็นอีกสิ่งหนึ่ง โดยนำสิ่งสองสิ่งที่ต่างจำพวกกันแต่มีลักษณะเด่นเหมือนกันมาเปรียบเทียบกันเช่นเดียวกับอุปมา และใช้คำที่แสดงความเปรียบว่า เป็น คือ
- วรรคใดไม่มีสัมผัสใน
ก. สะพานไผ่ไต่เลาะข้ามเกาะแก่ง ข. ผีฟ้าซ้ำผีน้ำซัดนัดกันมา
ค. ยิงโยกแกว่งแรงไกวไหวถลำ ง. พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล
ตอบ ง. พึ่งประจักษ์ดั่งสายน้ำไหล - ข้อใดคือคำประสมระหว่างคำไทยกับคำสันสกฤต
ก. สร้างสรรค์ ข. สถานที่
ค. ทุนทรัพย์ ง. หลักฐาน
ตอบ ค. ทุนทรัพย์
คำประสม คือ คำที่เกิดจากการนำคำมูลตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป และมีความหมายต่างกันมาประสมกันเป็นคำใหม่คำมูลที่นำมาประสมกันอาจเป็นคำนาม สรรพนาม กริยา วิเศษณ์ และบุพบท
วิธีสังเกตคำสันสกฤต
- พยัญชนะสันกฤตมี 35 ตัว คือ พยัญชนะบาลี 33 ตัว + 2 ตัว คือ ศ, ษ ฉะนั้นจึงสังเกตจากตัว ศ, ษ มักจะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น กษัตริย์ ศึกษา เกษียร พฤกษ์ ศีรษะ เป็นต้น ยกเว้นคำไทยบางคำที่ใช้เขียนด้วยพยัญชนะทั้ง2 ตัวนี้ เช่น ศอก ศึก ศอ เศร้า ศก ดาษ กระดาษ ฝรั่งเศส ฝีดาษ ฯลฯ
- ไม่มีหลักการสะกดแน่นอน ภาษาสันสกฤต ตัวสะกดตัวตามจะอยู่ข้ามวรรคกันได้ ไม่กำหนดตายตัว เช่น อัปสร เกษตร ปรัชญา อักษร เป็นต้น
- สังเกตจากสระสระในภาษาบาลี มี 8 ตัว คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ ส่วนสันสกฤต คือ สระภาษาบาลี 8 ตัว + เพิ่มอีก 6 ตัว คือ สระ ฤ ฤา ภ ภา ไอ เอา ถ้ามีสระเหล่านี้อยู่และสะกดไม่ตรงตามมาตราจะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น ตฤณมัย ไอศวรรย์ เสาร์ ไปรษณีย์ ฤาษี คฤหาสน์ เป็นต้น
4.สังเกตจากพยัญชนะควบกล้ำ ภาษาสันสกฤตมักจะมีคำควบกล้ำข้างท้าย เช่น จักร อัคร บุตร สตรี ศาสตร์ อาทิตย์ จันทร์ เป็นต้น
5.สังเกตจากคำที่มีคำว่า “เคราะห์” มักจะเป็นภาษาสันสกฤต เช่น เคราะห์ พิเคราะห์ สังเคราะห์ อนุเคราะห์ เป็นต้น
- สังเกตจากคำที่มี“ฑ” อยู่ เช่น จุฑา กรีฑา ครุฑ มณเทียร จัณฑาล เป็นต้น
7 .สังเกตจากคำที่มี “รร” อยู่ เช่น สรรค์ ธรรม์ วรรณ บรรพต ภรรยา บรรณารักษ์ มรรยาท กรรม ทรรศนะ สรรพ เป็นต้น
- ข้อใดเป็นประโยคความเดียว
ก.คนที่มีสุขภาพดีมาจากคนที่กินอาหารดีถูกหลักโภชนาการ
ข.การทำงานให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพมิได้อยู่ที่คนเพียงคนเดียว
ค.ขณะนี้ถึงเวลาที่ทุกคนต้องร่วมกันแก้ปัญหาเศรษฐกิจของชาติอย่างจริงจัง
ง.ความมีน้ำใจที่แท้ไม่ได้มาจากความจำเป็น หากมาจากความต้องการที่จะให้
ตอบ ก.คนที่มีสุขภาพดีมาจากคนที่กินอาหารดีถูกหลักโภชนาการ
ประโยคความเดียว เป็นประโยคที่นำคำมาเรียงกัน เเล้วมีความหมายสมบูรณ์บอกให้รู้ว่า ใคร ทำอะไร โดยมีเนื้อความเพียงเนื้อความเดียว หรือกล่าวถึง สภาพอย่างใดอย่างหนึ่งเพียงสภาพเดียว
- พระราชนิพนธ์พระบรมราโชวาทในตอนใดที่สะท้อนถึงบทบาทของบิดามารดา
ก.อย่าให้ถือตัวว่าเป็นเจ้าของแผ่นดินพ่อมีอำนาจยิ่งใหญ่ในบ้านเมืองถึงจะเกะกะไม่เกรง
กลัว คุมเหงผู้ใด
ข.การให้ซึ่งมีโอกาสและให้ทุนทรัพย์ซึ่งจะได้เล่าเรียนวิชานี้เป็นทรัพย์มรดกอันประเสริฐ
กว่าทรัพย์สินเงินทองอื่นๆ
ค.เงินทองที่จะใช้สอยในค่ากินอยู่ นุ่งห่มหรือใช้สอยเบ็ดเสร็จทั้งปวง จงเขม็ดแขม่
ง.เมื่อไปอยู่ในโรงเรียนแห่งใด จงประพฤติการให้เรียบร้อยตามแบบอย่างซึ่งเขาตั้งลงไว้
ตอบ ง.เมื่อไปอยู่ในโรงเรียนแห่งใด จงประพฤติการให้เรียบร้อยตามแบบอย่างซึ่งเขาตั้งลงไว้
- ข้อใดมีสัมผัสอักษร
ก. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง ข. วางให้พี่ข้างที่นอน
ค. นกบินเฉียงไปทั้งหมู่ ง. เรือครุฑยุดนาคหิ้ว
ตอบ ก. เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง
สัมผัสอักษร คือ สัมผัสพยัญชนะที่มีพยัญชนะต้นตัวเดียวกันหรือเสียงพ้องกัน เช่น จําใจจําจากเจ้า จําจร, คูนแคขิงข่าขึ้น เคียงคาง
- พจนานุกรมเล่มแรกมีชื่อว่าอะไร
ก. อักขราภิธานศัพท์ ข. ตุลวิภาคพจนกิจ
ค. ศิริพจนภาค ง. ไม่มีข้อใดถูก
ตอบ ง. ไม่มีข้อใดถูก - ข้อใดคือคำพังเพย
ก. ปิดทองหลังพระ ข. กำปั้นทุบดิน
ค. จับปลาสองมือ ง. กระต่ายตื่นตูม
ตอบ ง. กระต่ายตื่นตูม
คำพังเพย คือ ถ้อยอุปมาที่กล่าวกระทบเสียดสี ซึ่งมาจากเหตุการณ์เรื่องราวหรือ
ความเป็นไปในวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนเป็นสิ่งควรค่าแก่การเรียนรู้ และจดจำเป็นอย่างยิ่ง
- ข้อใดเป็นคำประสมที่ประกอบด้วยคำไทยกับคำยืมจากภาษาอื่นทุกคำ
ก. โรงพัก ตู้โชว์ ข. ชาวโลก น้ำพุ
ค. กินเจ ข้าวสาร ง. ฝูงชน ลำแข้ง
ตอบ ข. ชาวโลก น้ำพุ
