ตอบ ข. ฉบับที่ 2
มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓”
ตอบ ก. 12 กรกฎาคม 2553
พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2553 ให้ไว้ ณ วันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓ เป็นปีที่ ๖๕ ในรัชกาลปัจจุบัน
ตอบ ง. 65 ( ดูคำอธิบายข้อ 2 )
ตอบ ค. 22 กรกฎาคม 2553
พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ.2553 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา วันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓ เล่ม ๑๒๗ ตอนที่ ๔๕ ก
ตอบ ค. 23 กรกฎาคม 2553
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เป็นต้นไป
ตอบ ก. 6
ตอบ ค. รัฐมนตรี
มาตรา ๖ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
ตอบ ก. นายกรัฐมนตรี
ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี
ตอบ ค. คำแนะนำและยินยอมของรัฐสภา
ตอบ ข. วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
ตอบ ก. มาตรา 33
มาตรา ๓ ให้ยกเลิกความในมาตรา ๓๓ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“มาตรา ๓๓ การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษาโดยคำนึงถึงระดับของการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวนสถานศึกษา จำนวนประชากร วัฒนธรรมและความเหมาะสมด้านอื่นด้วย เว้นแต่การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษามีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากำหนดเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานแบ่งเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา
ในกรณีที่สถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานทั้งระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาการกำหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาใด ให้ยึดระดับการศึกษาของสถานศึกษานั้นเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในกรณีที่มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการจัดการศึกษาหรือมีเหตุผลความจำเป็นอย่างอื่นตามสภาพการจัดการศึกษาบางประเภท คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานอาจประกาศกำหนดให้ขยายการบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานของเขตพื้นที่การศึกษาหนึ่งไปในเขตพื้นที่การศึกษาอื่นได้”
ตอบ ง. เขตพื้นที่การศึกษา
ตอบ ข. รัฐมนตรีตามคำแนะนำของสภาการศึกษา
มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดยคำแนะนำของสภาการศึกษามีอำนาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อกำหนดหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงเขตพื้นที่การศึกษาสำหรับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวัน
นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
ตอบ ค. ระดับการศึกษาของสถานศึกษา
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการกำหนดโดยคำแนะนำของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ตอบ ง. 90 วันนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ( ดูคำอธิบายข้อ 13 )
ตอบ ง. ให้การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิผล
เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่การจัดระเบียบบริหารราชการในเขตพื้นที่การศึกษากำหนดให้แต่ละเขตพื้นที่การศึกษาประกอบด้วยการศึกษาระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา ซึ่งมีการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานรวมอยู่ในความรับผิดชอบของแต่ละเขตพื้นที่การศึกษา ทำให้เกิดความไม่คล่องตัวในการบริหารราชการ สมควรแยกเขตพื้นที่การศึกษาออกเป็นเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เพื่อให้การบริหารและการจัดการศึกษามีประสิทธิภาพ อันจะเป็นการพัฒนาการศึกษาแก่นักเรียนในช่วงชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษาให้สัมฤทธิผลและมีคุณภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติจึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้
ตอบ ก. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542
ก. 1 กรกฏาคม 2546 ค. 7 กรกฏาคม 2546
ข. 6 กรกฏาคม 2546 ง. 8 กรกฏาคม 2546
ตอบ ข. 6 กรกฏาคม 2546
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
หมวด ๑ การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
หมวด ๒ การจัดระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
หมวด ๓ การจัดระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
หมวด ๔ การปฏิบัติราชการแทน
หมวด ๕ การรักษาราชการแทน
ตอบ ค. ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่เป็นนิติบุคคล
มาตรา ๖ ให้จัดระเบียบราชการกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
(๑) ระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง
(๒) ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
(๓) ระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
ตอบ ก. 6 ส่วนราชการ
มาตรา ๑๐ การแบ่งส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธิการให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินี้ โดยให้มีหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ดังนี้
(๑) สำนักงานรัฐมนตรี
(๒) สำนักงานปลัดกระทรวง
(๓) สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา
(๔) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
(๕) สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
(๖) สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ส่วนราชการตาม (๒) (๓) (๔) (๕) และ (๖) มีฐานะเป็นนิติบุคคลและเป็นกรมตามกฎหมายว่า
ด้วยระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
ตอบ ข. สำนักงานรัฐมนตรี ( ดูคำอธิบายข้อ 23 )
ตอบ ค. กฏกระทรวง
มาตรา ๑๑ การแบ่งส่วนราชการภายในส่วนราชการตามมาตรา ๑๐ ให้ออกเป็นกฎกระทรวงและให้ระบุอำนาจหน้าที่ของแต่ละส่วนราชการไว้ในกฎกระทรวงว่าด้วยการแบ่งส่วนราชการดังกล่าว
หน้าที่เข้าชม | 9,797 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 6,996 ครั้ง |
เปิดร้าน | 14 มิ.ย. 2565 |
ร้านค้าอัพเดท | 6 ก.ย. 2568 |