- พระราชบัญญัติ ล้มละลาย มีทั้งหมดจำนวนกี่ฉบับ
ก. 5 ฉบับ ค. 7 ฉบับ
ข. 6 ฉบับ ง. 8 ฉบับ
ตอบ ค. 7 ฉบับ ได้แก่
1.พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓
2.พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๑๑
3.พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๒๖
- พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๑
- พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๒
- พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๖) พ.ศ. ๒๕๔๓
- พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๔๗
- พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันใด
ก.1 มกราคม พ.ศ.2483 ค. 2 มกราคม พ.ศ.2483
ข.1 มกราคม พ.ศ.2484 ง. 2 มกราคม พ.ศ.2484
ตอบ ข.1 มกราคม พ.ศ.2484
- พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ มีกี่หมวด กี่มาตรา
- 7 หมวด 180 มาตรา ค. 8 หมวด 180 มาตรา
- 7 หมวด 181 มาตรา ง. 8 หมวด 181 มาตรา
ตอบ ง. 8 หมวด 181 มาตรา
- พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ ให้ใช้เขตในจังหวัดใด
ก.ธนบุรี ค. นนทบุรี
ข.สมุทรปราการ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- บุคคลล้มละลายทุจริต พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ หมายความว่าอย่างไร
ก.บุคคลล้มละลายที่ถูกศาลพิพากษาว่ามีความผิดตามมาตรา 163 ถึงมาตรา 170
ข.บุคคลที่มีความผิดเกี่ยวกับการล้มละลายฐานยักยอกหรือฉ้อโกงตามกฏหมายลักษณะอาญา
ค. การกระทำความผิดอันมีลักษณะเป็นการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามกฎหมายว่า
ด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน
ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง.ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
- พระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช ๒๔๘๓ มาตรา 8 ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ในกรณีใด
- ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินหรือสิทธิจัดการทรัพย์สินของตนให้แก่บุคคลอื่น
- ถ้าลูกหนี้โอนหรือส่งมอบทรัพย์สินของตนไปโดยการแสดงเจตนาลวงหรือโดยการฉ้อฉล
- ถ้าลูกหนี้โอนทรัพย์สินของตนหรือก่อให้เกิดทรัพย์สิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดขึ้นเหนือทรัพย์สินนั้น ซึ่งถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้วจะต้องถือว่าเป็นการให้เปรียบ
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- เจ้าหนี้จะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อกรณีใด
- ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
- ลูกหนี้เป็นหนี้เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์คนเดียวเป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บาท หรือเป็นหนี้เจ้าหนี้หลายคนซึ่งเข้าชื่อกันเป็นโจทก์เป็นจำนวนรวมกันไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
- หนี้นั้นอาจกำหนดจำนวนได้โดยแน่นอน ไม่ว่าหนี้นั้นจะถึงกำหนดชำระโดยพลันหรือในอนาคตก็ตาม
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- เจ้าหนี้มีประกันจะฟ้องลูกหนี้ให้ล้มละลายได้ก็ต่อเมื่อกรณีใด
- มิได้เป็นผู้ต้องห้ามมิให้การบังคับชำระหนี้เอาแก่ทรัพย์สินของลูกหนี้เกินกว่าตัวทรัพย์ที่เป็นหลักประกัน
- กล่าวในฟ้องว่าถ้าลูกหนี้ล้มละลายแล้วจะยอมสละหลักประกันเพื่อประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลาย
- ตีราคาหลักประกันในฟ้องซึ่งเมื่อหักกับจำนวนหนี้ของตนแล้วเงินยังขาดอยู่เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 1,000 บาท
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ในขณะยื่นคำฟ้องคดีล้มละลาย เจ้าหนี้ผู้เป็นโจทก์ต้องวางเงินประกันค่าใช้จ่ายไว้ต่อศาลเป็นจำนวนเงินเท่าใด
- 50 บาท ค. 1,000 บาท
- 500 บาท ง. 5,000 บาท
ตอบ ก. 50 บาท

- เมื่อศาลสั่งรับฟ้องคดีล้มละลายไว้แล้วให้กำหนดวันนั่งพิจารณาเป็นการด่วนและให้ออกหมายเรียกและส่งสำเนาคำฟ้องไปยังลูกหนี้ให้ทราบก่อนวันนั่งพิจารณาไม่น้อยกว่ากี่วัน
- 3 วัน ค. 15 วัน
- 7 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
- เมื่อศาลได้รับฟ้องคดีล้มละลายแล้วถ้าเจ้าหนี้ผู้เป็นโจทย์มีคำขอฝ่ายเดียวโดยทำเป็นคำร้องและโจทก์นำสืบได้ว่าลูกหนี้ได้กระทำการ
- ออกไปหรือกำลังออกไปนอกเขตอำนาจศาล หรือได้ออกไปก่อนแล้ว และคงอยู่นอกเขตอำนาจศาล โดยเจตนาที่จะป้องกันหรือประวิงมิให้เจ้าหนี้ ได้รับการชำระหนี้
- ปกปิด ซุกซ่อน โอน ขาย จำหน่าย หรือยักย้ายทรัพย์สินดวงตรา สมุดบัญชี หรือเอกสาร ซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่เจ้าหนี้ทั้งหลายในการดำเนินคดีล้มละลายให้พ้นอำนาจศาล หรือกำลังจะกระทำการดั่งกล่าวนั้น
- กระทำหรือกำลังจะกระทำการฉ้อโกงเจ้าหนี้ หรือกระทำหรือกำลัง จะกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- จากข้อ 11 ศาลมีอำนาจอย่างไร
- ให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เข้าไปในเคหะสถาน หรือที่ทำการ ของลูกหนี้ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ขึ้นจนถึงพระอาทิตย์ตก เพื่อตรวจสอบ ทรัพย์สินดวงตรา สมุดบัญชีหรือเอกสารของลูกหนี้ และให้มีอำนาจสอบสวน ลูกหนี้หรือออกหมายเรียกลูกหนี้มาสอบสวนได้
- ให้ลูกหนี้ให้ประกันจนพอใจศาลว่า ลูกหนี้จะไม่หลบหนีไปนอก อำนาจศาลและจะมาศาลทุกคราวที่ศาลสั่ง ถ้าลูกหนี้ไม่สามารถให้ประกัน ศาลมีอำนาจสั่งขังลูกหนี้ได้มีกำหนดไม่เกินครั้งละหนึ่งเดือน แต่เมื่อรวมกัน แล้วต้องไม่เกินหกเดือน
- ออกหมายจับลูกหนี้มาขังไว้จนกว่าศาลจะพิพากษาให้ลูกหนี้ ล้มละลาย หรือจนกว่าศาลจะยกฟ้อง หรือจนกว่าลูกหนี้จะให้ประกัน จนพอใจศาล
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- เมื่อศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของลูกหนี้ เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์แต่ผู้เดียวมีอำนาจอย่างไร
- จัดการจำหน่ายทรัพย์สินของลูกหนี้ หรือกระทำการที่จำเป็นเพื่อให้ กิจการของลูกหนี้ที่ค้างอยู่เสร็จสิ้นไป
- เก็บรวบรวมและรับเงินหรือทรัพย์สินซึ่งจะตกได้แก่ลูกหนี้ หรือซึ่ง ลูกหนี้มีสิทธิจะได้รับจากผู้อื่น
- ประนีประนอมยอมความ หรือฟ้องร้อง หรือต่อสู้คดีใด ๆ เกี่ยวกับ ทรัพย์สินของลูกหนี้
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- เมื่อลูกหนี้ได้ทราบคำสั่งลูกหนี้ ต้องไปสาบานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ และยื่นคำชี้แจงตามแบบพิมพ์ว่า ได้มีหุ้นส่วนกับผู้ใดหรือไม่ ภายในเวลาเท่าใด
- 12 ชั่วโมง ค. 24 ชั่วโมง
- 15 ชั่วโมง ง. 48 ชั่วโมง
ตอบ ค. 24 ชั่วโมง
- ลูกหนี้ต้องไป สาบานตัวต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และยื่นคำชี้แจงเกี่ยวกับกิจการและทรัพย์ สินของลูกหนี้ตามแบบพิมพ์ แสดงเหตุผลที่ทำให้มีหนี้สินล้นพ้นตัว สินทรัพย์และ หนี้สิน ภายในเวลากี่วัน
- 3 วัน ค. 14 วัน
- 7 วัน ง. 20 วัน
ตอบ ข. 7 วัน
- ใครทำหน้าที่เรียกประชุมเจ้าหนี้
- ศาล ค. เจ้าหนี้
- พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ง. อัยการ
ตอบ ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์
- เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เห็นว่ามติของที่ประชุมเจ้าหนี้ ขัดต่อกฎหมาย หรือประโยชน์อันร่วมกันของเจ้าหนี้ทั้งหลาย เจ้าพนักงาน พิทักษ์ทรัพย์อาจยื่นคำขอโดยทำเป็นคำร้องต่อศาล และศาลอาจมีคำสั่งห้าม มิให้ปฏิบัติการตามมตินั้นได้ แต่ต้องยื่นต่อศาลภายในกี่วัน นับแต่วันที่ ที่ประชุมเจ้าหนี้ลงมติ
- 7 วัน ค. 3 วัน
- 15 วัน ง. 30 วัน
ตอบ ก. 7 วัน
- กรรมการเจ้าหนี้ขาดจากตำแหน่งด้วยเหตุใด
- ลาออกโดยมีหนังสือแจ้งไปยังเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
- ถูกศาลพิพากษาให้ล้มละลาย หรือถูกศาลสั่งให้เป็นผู้ไร้ความ สามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ
- ที่ประชุมเจ้าหนี้ให้ออกจากตำแหน่ง โดยได้แจ้งการที่ประชุมให้ ออกนี้ให้เจ้าหนี้ทั้งหลายทราบล่วงหน้าไม่น้อยกว่าเจ็ดวัน
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- เมื่อได้มีการประชุมเจ้าหนี้ครั้งแรกเสร็จแล้ว ให้ศาล ไต่สวนลูกหนี้โดยวิธีการใด
- โดยลับ ค. โดยเปิดเผย
- โดยตรง ง. วิธีใดก็ได้
ตอบ ค. โดยเปิดเผย
- เมื่อลูกหนี้ประสงค์จะทำความตกลงในเรื่องหนี้สินโดยวิธีขอ ชำระหนี้แต่เพียงบางส่วนหรือโดยวิธีอื่น ให้ทำคำขอประนอมหนี้เป็นหนังสือยื่น ต่อใคร
- ศาล ค. ทนาย
- พนักงานพิทักษ์ทรัพย์ ง. อัยการ
ตอบ ข. พนักงานพิทักษ์ทรัพย์
