- พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ ให้ไว้ ณ วันที่เท่าใด
- ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ค. ๑๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
- ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗ ง. ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๗
ตอบ ก. ๑๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๗
- ใครคือผู้รักษาการตามพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗
- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธิการคณะกรรมการศึกษา
- ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. รัฐมนตรีที่ได้รับการแต่งตั้ง
ตอบ ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
- มาตรา 3 การประกาศใช้พระราชบัญญัตินี้ ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติใด
- พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗
- พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๓๘
- พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๐
- พระราชบัญญัติวิทยาลัยครู พ.ศ. ๒๕๓๘
ตอบ ข. พระราชบัญญัติสถาบันราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๓๘
- มหาวิทยาลัยราชภัฏ มีฐานะเป็นอะไร
- นิคิบุคคล
- นิติบุคคลในกำกับของกระทรวงศึกษาธิการ
- ส่วนราชการตามกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
- ถูกทั้ง ก และ ค
ตอบ ง.ถูกทั้ง ก และ ค
- พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ มีกี่หมวด กี่บทเฉพาะกาล
- 4 หมวด 1 บทเฉพาะกาล ค. 6 หมวด 1 บทเฉพาะกาล
- 5 หมวด 1 บทเฉพาะกาล ง. 7 หมวด 1 บทเฉพาะกาล
ตอบ ง. 7 หมวด 1 บทเฉพาะกาล
- พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗ มีกี่มาตรา
- 68 มาตรา ค. 70 มาตรา
- 69 มาตรา ง. 71 มาตรา
ตอบ ค. 70 มาตรา
- ข้อใดคือวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งมหาวิทยาลัยเป็นสถาบันอุดมศึกษา
- ให้การศึกษา ส่งเสริมวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง ทำการสอน วิจัย
- ให้บริการทางวิชาการแก่สังคม ปรับปรุง ถ่ายทอด และพัฒนาเทคโนโลยี
- ทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ผลิตครูและส่งเสริมวิทยฐานะครู
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับภาระหน้าที่ของมหาวิทยาลัย
- ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม สำนึกในความเป็นไทย มีความรักและผูกพันต่อท้องถิ่น
- แสวงหาความจริงเพื่อสู่ความเป็นเลิศทางวิชาการ บนพื้นฐานของภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิปัญญาไทย และภูมิปัญญาสากล
- เสริมสร้างความเข็มแข็งของวิชาชีพครู ผลิตและพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีคุณภาพและมาตรฐานที่เหมาะสมกับการเป็นวิชาชีพชั้นสูง
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- มหาวิทยาลัยจะปฏิเสธการรับผู้สมัครผู้ใดเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยหรือยุติ หรือชะลอการศึกษาของนักศึกษาผู้ใดด้วยเหตุเพียงว่าผู้นั้นขาดแคลนทุนทรัพย์อย่างแท้จริงเพื่อจ่ายค่าธรรมเนียมการศึกษาต่างๆ แก่มหาวิทยาลัยมิได้ อยู่ในมาตราใดของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗
- มาตรา 9 ค. มาตรา 7
- มาตรา 11 ง. มาตรา 12
ตอบ ก. มาตรา 9
- ข้อใด ไม่ใช่ การแบ่งส่วนราชการของมหาวิทยาลัย
- คณะ ค. กอง
- สำนักงานอธิการบดี ง. สำนัก
ตอบ ค.กอง
มาตรา ๑๐ มหาวิทยาลัยอาจแบ่งส่วนราชการ ดังนี้
(๑) สำนักงานอธิการบดี
(๒) สำนักงานวิทยาเขต
(๓) บัณฑิตวิทยาลัย
(๔) คณะ
(๕) สถาบัน
(๖) สำนัก
(๗) วิทยาลัย
- การจัดตั้ง การรวม และการยุบเลิกสำนักงานวิทยาเขต บัณฑิตวิทยาลัย คณะ สถาบัน สำนัก วิทยาลัย ศูนย์ ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่าคณะ ให้ทำเป็นกฎหมายใด
- กฎกระทรวง ค. พระราชกฤษฎีกา
- ประกาศกระทรวง ง. พระราชบัญญัติ
ตอบ ก. กฎกระทรวง
- การแบ่งส่วนราชการเป็นสำนักงานคณบดี สำนักงานผู้อำนวยการ และกอง ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่ากอง ให้ทำเป็นกฎหมายใด
- ประกาศกระทรวง
- ประกาศกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- ค.กฏกระทรวง
- พระราชกฤษฎีกา
ตอบ ข. ประกาศกระทรวงและประกาศในราชกิจจานุเบกษา
- การแบ่งส่วนราชการเป็นงาน ส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เรียกชื่ออย่างอื่นที่มีฐานะเทียบเท่างาน ให้ทำเป็นกฎหมายใด
- ประกาศกระทรวง ค.พระราชกฤษฎีกา
- กฎกระทรวง ง. ประกาศมหาวิทยาลัย
ตอบ ง. ประกาศมหาวิทยาลัย
- มหาวิทยาลัยจะรับสถาบันการศึกษาชั้นสูงหรือสถาบันอื่นเข้าสมทบในมหาวิทยาลัยก็ได้ และมีอำนาจให้ปริญญา อนุปริญญา หรือประกาศนียบัตรชั้นหนึ่งชั้นใดแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากสถาบันที่เข้าสมทบนั้นได้ อยู่ในมาตราใดของพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยราชภัฏ พ.ศ. ๒๕๔๗
- มาตรา 8 ค. มาตรา 7
- มาตรา 11 ง. มาตรา 12
ตอบ ง. มาตรา 12
- นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน มหาวิทยาลัยอาจมีรายได้จากที่ใด
- เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
- เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย
- รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้ที่ราชพัสดุซึ่งมหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล หรือใช้ประโยชน์
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
มาตรา ๑๓ นอกจากเงินที่กำหนดไว้ในงบประมาณแผ่นดิน มหาวิทยาลัยอาจมีรายได้ ดังนี้
(๑) เงินผลประโยชน์ ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ และค่าบริการต่างๆ ของมหาวิทยาลัย
(๒) เงินและทรัพย์สินที่มีผู้อุทิศให้แก่มหาวิทยาลัย
(๓) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้มาจากการใช้ที่ราชพัสดุซึ่งมหาวิทยาลัยปกครอง ดูแล หรือใช้ประโยชน์
(๔) เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่น หรือเงินอุดหนุนอื่นที่มหาวิทยาลัยได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย
(๕) รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
(๖) รายได้หรือผลประโยชน์อื่น
- ข้อใดไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
- เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษา
- เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาการซื้อทรัพย์สินหรือจ้างทำของที่ดำเนินการโดยใช้เงินงบประมาณ
- เงินอุดหนุนจากราชการส่วนท้องถิ่น หรือเงินอุดหนุนอื่นที่มหาวิทยาลัยได้รับเพื่อใช้ในการดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัย
- ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
บรรดารายได้และผลประโยชน์ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งผลประโยชน์ที่เกิดจากที่ราชพัสดุ เบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษา และเบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาการซื้อทรัพย์สินหรือจ้างทำของที่ดำเนินการโดยใช้เงินงบประมาณ ไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
- ข้อใดไม่ถือเป็นที่ราชพัสดุและให้เป็นกรรมสิทธิ์ของมหาวิทยาลัย
- อสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาโดยมีผู้อุทิศให้หรือได้มา
- อสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยได้มาโดยการซื้อหรือแลกเปลี่ยนจากรายได้ของมหาวิทยาลัย
- รายได้หรือผลประโยชน์ที่ได้จากการลงทุนและจากทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
- ถูกทั้ง ก และ ข
ตอบ ง. ถูกทั้ง ก และ ข
- มหาวิทยาลัยแต่ละแห่งจะต้องมีสภามหาวิทยาลัย ประกอบด้วยบุคคลใดบ้าง
- นายกสภามหาวิทยาลัย ค. กรรมการสภามหาวิทยาลัยผู้ทรงคุณวุฒิ
- กรรมการสภามหาวิทยาลัยโดยตำแหน่ง ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- นายกสภามหาวิทยาลัยและกรรมการสภามหาวิทยาลัยมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละกี่ปี
- 1 ปี ค. 3 ปี
- 2 ปี ง. 4 ปี
ตอบ ค. 3 ปี
- ประธานสภาวิชาการในมหาวิทยาลัยคือใคร
- รองอธิการบดี ค. ผู้ทรงคุณวุฒิจากบุคคลภายนอก
- อธิการบดี ง. คณาจารย์ที่ได้รับการแต่งตั้ง
ตอบ ข. อธิการบดี
