- ข้อใดคือหลักการจ่ายน้ำภายในอาคาร
- ระบบจ่ายน้ำด้วยความดัน ค. ระบบจ่ายน้ำด้วยความแรง
- ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
หลักการจ่ายน้ำภายในอาคารมี 2 ลักษณะคือ ระบบจ่ายน้ำด้วยความดัน ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง
- ระบบจ่ายน้ำแบบใดที่ใช้กับอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10 ชั้น ขึ้นไป
- ระบบจ่ายน้ำด้วยความดัน ค. ระบบจ่ายน้ำด้วยความแรง
- ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง ง. ถูกเฉพาะข้อ ก และ ข
ตอบ ข. ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง
ระบบจ่ายน้ำโดยแรงโน้มถ่วง (Gavity Feed/Downfeed System) เป็นการสูบน้ำขึ้นไปเก็บไว้บนดาดฟ้าแล้ว ปล่อยลงมาตามธรรมชาติ ตามท่อต้องเป็นอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 10 ชั้น ขึ้นไป ถือเป็น ระบบ ที่ไม่ซับซ้อนไม่ต้องใช้ไฟในการจ่าย แต่จะต้องเตรียมถังเก็บน้ำ ไว้บนดาดฟ้า จึงต้องคำนึงถึง เรื่องโครงสร้างในการ รับน้ำหนัก และความสวยงามด้วย
- ตำแหน่งที่ตั้งถังเก็บน้ำที่ใช้งานทั่วไปมีกี่แบบ
- 2 แบบ ค. 4 แบบ
- 3 แบบ ง. แบบเดียว
ตอบ ก. 2 แบบ
ตำแหน่งที่ตั้งถังเก็บน้ำที่ใช้งานทั่วไปมีที่ตั้ง 2 แบบคือ
– ถังเก็บน้ำบนดิน ใช้ในกรณีที่มีพื้นที่เพียงพอกับการติดตั้ง อาจติดตั้งบนพื้นดิน หรือบนอาคาร หรือติดตั้งบนหอสูง เพื่อใช้ประโยชน์ ในการใช้แรงดันน้ำ สำหรับแจกจ่ายให้ส่วนต่างๆของอาคาร การดูแลรักษาสามารถทำได้ง่ายแต่อาจดูไม่เรียบร้อยและไม่สวยงามนัก
– ถังเก็บน้ำใต้ดิน ใช้ในกรณีที่ไม่มีพื้นที่ในการติดตั้งเพียงพอและต้องการให้ดูเรียบร้อยสวยงามการบำรุงดูแลรักษาทำได้ยาก ดังนั้นการก่อสร้าง และการเลือก ชนิดของถังต้องมีความละเอียดรอบคอบ
- ข้อใด ไม่ใช่ วิธีการเดินท่อประปาภายในบ้าน
- การเดินท่อแบบลอย ค. การเดินท่อแบบจม
- การเดินท่อแบบฝัง ง. เป็นวิธีการเดินท่อภายในบ้านทุกข้อ
ตอบ ค. การเดินท่อแบบจม
- หลักการต่อท่อข้อแรกควรทำอย่างไร
- การกำหนดขนาดความยาวของท่อ
- สำรวจเส้นทางเดินท่อและบันทึกไว้อย่างละเอียด
- พยายามใช้ท่อให้สั้นที่สุด และสะดวกในการใช้งานมากที่สุด
- หลีกเลี่ยงการใช้ข้องอและสามทาง เนื่องจากทำให้แรงดันน้ำลดลง
ตอบ ข. สำรวจเส้นทางเดินท่อและบันทึกไว้อย่างละเอียด
- การกำหนดขนาดความยาวของท่อมีกี่วิธี
- 4 วิธี ค. 5 วิธี
- 3 วิธี ง. 2 วิธี
ตอบ ข.3 วิธี
การกำหนดขนาดความยาวของท่อที่นิยมมี 3 วิธี
- กำหนดขนาดจากปลายท่อถึงปลายท่อ ไม่รวมข้อต่อ
2. กำหนดขนาดจากปลายท่อถึงเส้นผ่าศูนย์กลางข้อต่อ
3. กำหนดขนาดจากเส้นผ่าศูนย์กลางข้อต่อถึงเส้นผ่าศูนย์กลางข้อต่ออีกด้านหนึ่ง
- ท่อประปาแบ่งออกเป็นกี่ชนิด
- 2 ชนิด ค. 4 ชนิด
- 3 ชนิด ง. 5 ชนิด
ตอบ ก. 2 ชนิด
ท่อประปาแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ ท่อโลหะและท่อพลาสติก
- ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับท่อพีวีซี
- มีความแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดี ทนทานต่อแรง กระแทกได้
- ราคาค่อนข้างแพง
- น้ำหนักเบา ราคาถูกกว่า สามารถดัดงอได้
- ทนต่อความดันและอุณหภูมิที่สูงๆ
ตอบ ค. น้ำหนักเบา ราคาถูกกว่า สามารถดัดงอได้

- ท่อพีวีซีสีใดเป็นท่อที่ใช้กับระบบน้ำ
- สีเหลือง ค. สีฟ้า
- สีเทา ง. สีน้ำเงิน
ตอบ ค. สีฟ้า
ท่อสีเหลือง เป็นท่อสำหรับร้อยสายไฟฟ้า และสาย โทรศัพท์ เพราะสามารถทนต่อความร้อนได้อย่างดี
ท่อสีเทา เป็นท่อที่ใช้สำหรับการเกษตร หรือน้ำทิ้ง ก็ได้ ราคาค่อนข้างถูก ไม่ค่อยแข็งแรง ควรจะเดินลอย ไม่ควร ฝังดิน
- อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับปิดกั้นหรือควบคุมการไหลของน้ำหรือแก๊สที่ไหลผ่านท่อให้ได้ตามที่ต้องการคืออะไร
- ข้อต่อ ค. มาตรวัดน้ำ
- ก๊อกน้ำ ง. ลิ้น
ตอบ ง. ลิ้น
- อุปกรณ์ที่ติดตั้งอยู่ตอนปลายสุดของท่อประปา สำหรับควบคุมการปิดเปิดการไหลของน้ำคืออะไร
- ข้อต่อ ค. มาตรวัดน้ำ
- ก๊อกน้ำ ง. ลิ้น
ตอบ ข.ก๊อกน้ำ
- ข้อใด ไม่ใช่ เครื่องมือวัดระยะและวางแบบในงานประปา
- เครื่องทำเกลียวท่อ ค. ฉากตาย
- ตลับเมตร ง. ลูกดิ่ง
ตอบ ก.เครื่องทำเกลียวท่อ
- ข้อใดคือเครื่องมืองานวางท่อประปาชนิดพลาสติก
- ตะไบกลมและตะไบท้องปลิง ค. เครื่องมือสำหรับตัดท่อ
- ประแจขันท่อ ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อใด ไม่ใช่ เครื่องมืองานวางท่อประปาชนิดที่เป็นเหล็ก
- เลื่อยตัดเหล็ก ค. ดอกคว้านท่อ
- เครื่องทำเกลียวท่อ ง. เครื่องบานปลายท่อ
ตอบ ง. เครื่องบานปลายท่อ
- ข้อใดเป็นคุณสมบัติของท่อเหล็กอาบสังกะสี
- ราคาค่อนข้างสูง
- ถ้าใช้ไปนานๆอาจเกิดสนิมได้
- มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกได้ ไม่หักงอง่าย
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง.ถูกทุกข้อ
- ท่อประปา แบ่งเป็นกี่ประเภท
- 2 ประเภท ค. 4 ประเภท
- 3 ประเภท ง. 5 ประเภท
ตอบ ง. 5 ประเภท
- ท่อประปาประเภทใดทำจากเหล็กกล้าซึ่งเป็นสนิมได้ยาก ผ่านการอาบ สังกะสี
- ท่อไซเลอร์ ค. ท่อพีพีอาร์
- ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี ง. ท่อโพลีเอทิลีน
ตอบ ข. ท่อประปาเหล็กอาบสังกะสี
- ข้อใดคือคุณสมบัติของท่อพีวีซี ที่ใช้เป็นท่อประปา
- มีผิวมันเรียบช่วยให้การไหลของน้ำได้ดี
- มีน้ำหนักเบาและราคาถูก
- ใช้ได้กับน้ำธรรมดาอย่างเดียว (ใช้เป็นท่อน้ำร้อนไม่ได้)
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
- ข้อใด ไม่ใช่ ลักษณะของท่อพีพีอาร์ (PP-R)
- ทนความเค็มได้ดี ทนต่อการสึกกร่อน
- ผลิตจากโพลีพร็อพโพลีน ซึ่งเป็นเม็ดพลาสติกที่สะอาด มีคุณภาพสูง มีความหนานแน่นสูง แสงไม่ลอดผ่าน
- ทนอุณหภูมิได้สูงสุดถึง 95 องศาเซลเซียส
- อายุการใช้งานยาวนานถึง 50 ปี
ตอบ ก. ทนความเค็มได้ดี ทนต่อการสึกกร่อน
- ข้อใดคือลักษณะของท่อทองแดง
- มีน้ำหนักเบา สามารถดัดโค้งงอได้
- ทนความร้อนได้ดี ทนได้ทุกสภาพอากาศ
- ทนความเค็มได้ดี ทนต่อการสึกกร่อน
- ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
