1. สัญญาคืออะไร

• นิติกรรมฝ่ายเดียว ค. การใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมาย
• นิติกรรมหลายฝ่าย ง. การผูกนิติสัมพันธ์

ตอบ  ข. นิติกรรมหลายฝ่าย

2. นิติกรรม คืออะไร

• การใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมาย มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
• การใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยความสมัครใจ มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
• การใด ๆ อันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมายและด้วยความสมัครใจมุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ
• ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

3. หลักการทำสัญญา ตามระเบียบฯพัสดุ พ.ศ.2535 มีกี่แบบ

• 5 แบบ                                        ค. 3  แบบ
• 4 แบบ                                                                  ง. 2  แบบ

ตอบ   ค. 3  แบบ   ได้แก่   1. เต็มรูป    2. ลดรูป    3. ไม่มีรูปแบบ

4. หลักการทำสัญญารูปแบบใดที่จัดทำข้อตกลงเป็นหนังสือไว้ต่อกันโดยไม่ต้องทำเป็นสัญญาก็ได้

• เต็มรูป                                                                 ค. ไม่มีรูปแบบ
• ลดรูป                                                                ง. ถูกทั้ง ข  และ  ค

ตอบ   ข. ลดรูป 

5. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับสัญญาที่จำเป็นต้องทำเป็นภาษาต่างประเทศ

• ให้ทำเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น
• ให้ทำเป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษทั้งหมด
• ให้ทำเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องมีคำแปลตัวสัญญา
• ให้ทำเป็นภาษาอังกฤษ แต่ต้องมีคำแปลตัวสัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญาเฉพาะที่สำคัญเป็นภาษาไทยไว้ด้วย

ตอบ   ง. ให้ทำเป็นภาษาอังกฤษ แต่ต้องมีคำแปลตัวสัญญาและเอกสารแนบท้ายสัญญาเฉพาะที่สำคัญเป็นภาษาไทยไว้ด้วย

6. การซื้อหรือการจ้างกับส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ จ่ายได้ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของราคาซื้อหรือราคาจ้าง

• ร้อยละ 50                                                            ค. ร้อยละ  30
• ร้อยละ 40                                                            ง. ร้อยละ  20

ตอบ   ก. ร้อยละ  50   

7. การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีสอบราคาหรือประกวดราคา จ่ายได้ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของราคาซื้อหรือราคาจ้าง

• ร้อยละ  15                                                          ค. ร้อยละ  25
• ร้อยละ  20                                                           ง. ร้อยละ  30

ตอบ   ก. ร้อยละ  15

8. การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีพิเศษ ให้จ่ายได้ไม่เกินร้อยละเท่าใด ของราคาซื้อหรือราคาจ้าง

• ร้อยละ 15                                                            ค. ร้อยละ  25
• ร้อยละ  20                                                           ง. ร้อยละ  30

ตอบ   ก. ร้อยละ  15

9. การจ่ายเงินล่วงหน้า กรณีใดที่ไม่ต้องเรียกหลักประกัน

• การจ่ายเงินล่วงหน้าค่าซื้อพัสดุจากต่างประเทศ
• การซื้อหรือการจ้างกับส่วนราชการหรือรัฐวิสาหกิจ
• การจ่ายเงินล่วงหน้า กรณีสอบราคา
• ถูกทั้ง ก  และ  ข

ตอบ   ง. ถูกทั้ง  ก  และ  ข

10. การกำหนดอัตราค่าปรับในสัญญากรณีซื้อ/จ้างไม่ต้องการผลสำเร็จของงานพร้อมกัน ต้องกำหนดค่าปรับเป็นรายวันในอัตราตายตัว ระหว่างร้อยละเท่าใด ของราคาพัสดุที่ยังไม่ได้รับมอบ

• ร้อยละ 01-0.10                                              ค. ร้อยละ  0.01-0.25
• ร้อยละ 01-0.20                                              ง. ร้อยละ  0.01-0.15

ตอบ    ข. ร้อยละ  0.01-0.20

11. กรณีการจ้างที่ต้องการผลสำเร็จของงานทั้งหมดพร้อมกันจะต้องไม่ต่ำกว่าวันละกี่บาท

• 100 บาท                                                              ค. 300  บาท
• 200 บาท                                                              ง. 400  บาท

ตอบ   ก. 100  บาท

12. การจ้างก่อสร้างสาธารณูปโภคที่มีผลกระทบต่อการจราจร ให้กำหนดค่าปรับเป็นรายวันใน

อัตราร้อยละเท่าใด

• ร้อยละ 12  ของราคางานจ้างนั้น                                ค. ร้อยละ  0.25  ของราคางานจ้างนั้น
• ร้อยละ 20  ของราคางานจ้างนั้น                                ง. ร้อยละ  0.35  ของราคางานจ้างนั้น

ตอบ  ค. ร้อยละ  0.25  ของราคางานจ้างนั้น

13. หัวหน้าส่วนราชการต้องส่งสำเนาสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือ ซึ่งมีมูลค่าตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป ให้กับหน่วยงานใด

• กรมธนารักษ์ ค. กระทรวงการคลัง
• กรมบัญชีกลาง ง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

ตอบ  ง. สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน

14. จากข้อ 13 หัวหน้าส่วนราชการต้องส่งสำเนาสัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือภายในกี่วันนับแต่วันทำสัญญาหรือข้อตกลง

• 90 วัน                                                                   ค. 60  วัน
• 45 วัน                                                                   ง. 30  วัน

ตอบ   ง. 30  วัน

15. ผู้มีหน้าที่บริหารสัญญาคือใคร

• เจ้าหน้าที่พัสดุ ค. หรือคณะกรรมการตรวจการจ้าง
• คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ง. ถูกทุกข้อ

ตอบ  ง. ถูกทุกข้อ

16. การทำสัญญาจะทำแตกต่างไปจากตัวอย่างสัญญาที่ กวพ. กำหนด ได้แต่ต้องอยู่ในหลักเกณฑ์ใด

• ต้องเป็นกรณีจำเป็น
• ข้อความหรือรายการที่แตกต่างไปจากตัวอย่างสัญญา กวพ. กำหนดจะต้องไม่ทำให้ส่วนราชการเสียเปรียบและรัดกุมพอ
• ในสัญญาที่แตกต่างจะต้องมีข้อความที่เป็นสาระสำคัญตามที่กำหนดไว้ในตัวอย่างสัญญาที่กวพ. กำหนด
• ถูกทุกข้อ

ตอบ   ง. ถูกทุกข้อ

17. กรณีจำเป็นต้องยกร่างสัญญาขึ้นใหม่ เพราะไม่อาจทำตามตัวอย่างที่ กวพ. สัญญาใดที่จะต้องส่งร่างให้สำนักงานอัยการสูงสุดพิจารณาก่อน

• สัญญาอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์ ค. สัญญาจ้าง
• สัญญาซื้อขาย                                                 ง. สัญญาเช่าคอมพิวเตอร์

ตอบ   ก. สัญญาอนุญาตให้ใช้ลิขสิทธิ์

18. วัตถุประสงค์ของสัญญาที่คู่สัญญาได้ตกลงกันไว้ คืออะไร

• การลงนามสัญญา ค. การบริหารสัญญา
• ข้อตกลงสัญญา ง. ไม่มีข้อถูก

ตอบ   ข. ข้อตกลงสัญญา         

19. การจ่ายเงินล่วงหน้า เป็นเงินที่ส่วนราชการจะจ่ายให้แก่ผู้รับจ้างหรือผู้ขายได้ไม่เกินเท่าใด

• 10 % ของเงินค่าจ้างหรือค่าพัสดุ ค. 20 % ของเงินค่าจ้างหรือค่าพัสดุ
• 15 % ของเงินค่าจ้างหรือค่าพัสดุ ง. 25 % ของเงินค่าจ้างหรือค่าพัสดุ

ตอบ  ข. 15 % ของเงินค่าจ้างหรือค่าพัสดุ          

20. ข้อใด ไม่ถูกต้อง

• การซื้อพัสดุจากสถาบันของรัฐในต่างประเทศ ให้จ่ายได้ตามที่ตกลงกับสถาบันของรัฐไม่ต้องวางหลักประกัน
• การบอกรับวารสารหรือสั่งจองหนังสือ ไม่ต้องวางหลักประกัน ส่วนการจ่ายเงินล่วงหน้าค่าพัสดุหรือค่าจ้าง ให้จ่ายได้เท่าที่จ่ายจริง
• การซื้อหรือการจ้างจากส่วนราชการ ส่วนท้องถิ่น และรัฐวิสาหกิจ จ่ายได้ไม่เกินร้อยละห้าสิบของราคาซื้อหรือราคาจ้าง ไม่ต้องวางหลักประกัน
• การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีสอบราคา หรือประกวดราคา จ่ายได้ไม่เกินร้อยละสิบห้าของราคาซื้อหรือจ้าง ไม่ต้องวางหลักประกัน

ตอบ   ง. การซื้อหรือการจ้างโดยวิธีสอบราคา หรือประกวดราคา จ่ายได้ไม่เกินร้อยละสิบห้าของราคาซื้อหรือจ้าง  ไม่ต้องวางหลักประกัน