1. แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม มีระยะเวลากี่ปี

ตอบ    4  ปี   คืออยู่ในช่าง ปี พ.ศ. 2557-2560

2. วิสัยทัศน์แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2557-2560 คืออะไร

ตอบ   “ศาลยุติธรรมเป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการในการดำรงอำนาจอธิปไตยและรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม โดยการอำนวยความยุติธรรมภายใต้หลักนิติธรรมด้วยความรวดเร็ว เป็นธรรม และมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล ทั้งมุ่งนำเทคโนโลยีที่เหมาะสมและทันสมัยมาใช้ เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการอำนวยความยุติธรรมของศาลยุติธรรมได้โดยง่าย ภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๐”

3. พันธกิจแผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2557-2560 มีกี่ข้อ  อะไรบ้าง

ตอบ   4  ข้อ  ได้แก่

1. การอำนวยความยุติธรรมมีมาตรฐานระดับสากล
2. การกระชับความร่วมมือทางการศาล การยุติธรรม และความร่วมมือทางวิชาการ
3. การให้บริการการเรียนรู้แก่ประชาชน ด้านกฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมของศาลยุติธรรมที่มีมาตรฐานระดับสากล
4. การสนับสนุนการอำนวยความยุติธรรมด้วยความสะดวก รวดเร็ว และการให้บริการประชาชนที่มีคุณภาพสูงสุด
5. พันธกิจข้อที่ ๑ การอำนวยความยุติธรรมมีมาตรฐานระดับสากล  มีอะไรบ้าง

ตอบ   – พิจารณาพิพากษาคดีด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม

– ระงับข้อพิพาททางเลือกด้วยความถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม เช่น การไกล่เกลี่ย และการอนุญาโตตุลาการ เป็นต้น

– การคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนอย่างเสมอภาค

5. แผนยุทธศาสตร์ศาลยุติธรรม มีกี่ข้อ   อะไรบ้าง

ตอบ    5   ข้อ  ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ ๑ เสริมสร้างการอำนวยความยุติธรรมให้มีมาตรฐานระดับสากล เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคม และให้ประชาชนเข้าถึงศาลยุติธรรมได้โดยง่าย

ยุทธศาสตร์ที่ ๒ ส่งเสริมและพัฒนาระบบการอำนวยความยุติธรรมในศาลชำนัญพิเศษให้มีมาตรฐานระดับสากล รองรับอรรถคดีจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการเป็นศูนย์กลางทางวิชาการด้านกฎหมายและคดีชำนัญพิเศษในประชาคมอาเซียน

ยุทธศาสตร์ที่ ๓ กระชับความร่วมมือทางการศาล การยุติธรรม รวมทั้งความร่วมมือทางวิชาการทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอาเซียน ระดับนานาชาติ และเสริมสร้างสถานะและบทบาทของศาลยุติธรรมไทยในเวทีระหว่างประเทศ

ยุทธศาสตร์ที่ ๔ เสริมสร้างศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านกฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมของศาลยุติธรรมที่มีมาตรฐานระดับสากล

ยุทธศาสตร์ที่ ๕ ยกระดับระบบงานธุรการศาล ระบบงานส่งเสริมงานตุลาการ และการให้บริการประชาชน ให้มีมาตรฐานและมีสมรรถนะสูง พร้อมเข้าสู่ประชาคมอาเซียน

6. เป้าประสงค์ของ ยุทธศาสตร์ที่ ๑  คืออะไร  และมีตัวชี้วัดเป้าประสงค์อย่างไร

ตอบ   เป้าประสงค์ สังคมไทยมีความสงบเรียบร้อย และประเทศในประชาคมอาเซียนให้การยอมรับและเชื่อมั่นในความเป็นธรรมและการอำนวยความยุติธรรมที่มีมาตรฐานระดับสากลของศาลยุติธรรมตัวชี้วัดเป้าประสงค์

1. ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าเมื่อมีคดีความหรือการละเมิดสิทธิเกิดขึ้น จะได้รับการอำนวยความยุติธรรมที่เป็นธรรมและได้มาตรฐานจากศาลยุติธรรม ในระดับ ๔ จากคะแนนเต็ม ๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560

๒. ศาลยุติธรรมไทยเป็นศาลที่ได้รับความเชื่อมั่นจากประเทศในประชาคมอาเซียนไม่ต่ำกว่าลำดับ 3 จากศาลยุติธรรมทั้งหมดในประเทศประชาคมอาเซียน ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

3. ประชาชนมีความเชื่อถือ ศรัทธาต่อศาลยุติธรรมในการดำรงอำนาจอธิปไตยตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ ในระดับ ๔ จากคะแนนเต็ม ๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560
4. เป้าประสงค์ของ ยุทธศาสตร์ที่ ๒  คืออะไร  และมีตัวชี้วัดเป้าประสงค์อย่างไร

ตอบ   เป้าประสงค์ ภาคเศรษฐกิจ สังคม การค้า การลงทุนทั้งในและระหว่างประทศ โดยเฉพาะประเทศในประชาคมอาเซียน มีความเชื่อมั่นในความเชี่ยวชาญด้านคดีชำนัญพิเศษ และยอมรับในระบบการอำนวยความยุติธรรมของศาลชำนัญพิเศษที่เป็นธรรมและมีมาตรฐานระดับสากล

ตัวชี้วัดเป้าประสงค์

๑. นักธุรกิจ นักลงทุน ทั้งชาวไทย ชาวต่างประเทศและประชาชน มีความเชื่อมั่นว่า เมื่อมีคดีความหรือการละเมิดสิทธิเกิดขึ้น จะได้รับการอำนวยความยุติธรรมที่เป็นธรรมและมีมาตรฐานระดับสากลจากศาลชำนัญพิเศษในแต่ละประเภท ในระดับ 4 จากคะแนนเต็ม 5 ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560

๒. ศาลชำนัญพิเศษเป็นศูนย์กลางการยุติธรรมด้านกฎหมายและคดีชำนัญพิเศษในประชาคมอาเซียน ตามกรอบความร่วมมือทางการศาลของศาลในประชาคมอาเซียนภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 256๐

๓. ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยเกี่ยวกับกฎหมายด้านธุรกิจได้รับการจัดอันดับที่ดีขึ้นจากสถาบันนานาชาติเพื่อการจัดการ (IMD : International Manage –ment  Development) ภายในปี 256๐ (ในปี พ.ศ. 25๕๕ ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ ๔๔)

8. เป้าประสงค์ของ ยุทธศาสตร์ที่ ๓  คืออะไร  และมีตัวชี้วัดเป้าประสงค์อย่างไร

ตอบ    เป้าประสงค์ หน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมในระดับประเทศ ระดับภูมิภาคอาเซียน ระดับนานาชาติรวมถึงองค์การระหว่างประเทศมีความเชื่อมั่นในศาลยุติธรรมไทย โดยให้การยอมรับและให้ความร่วมมือทางการศาล การยุติธรรม และความร่วมมือทางวิชาการ ทั้งระดับทวิภาคีและพหุภาคี

ตัวชี้วัดเป้าประสงค์

๑. ผลสัมฤทธิ์ของการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมในประเทศ มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

๒. ผลสัมฤทธิ์ของการขยายความร่วมมือด้านทางการศาลและการยุติธรรม ระหว่างศาลยุติธรรมไทยกับศาลยุติธรรมและหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม ในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับนานาชาติ มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

๓. ผลสัมฤทธิ์ของการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระหว่างประเทศระดับภูมิภาคอาเซียน ระดับนานาชาติและการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือการมีบทบาท/ท่าทีในการประชุมระหว่างประเทศของศาลยุติธรรม มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ๘๐ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

๔. ผลสัมฤทธิ์ของการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้บริหารระดับสูง และการปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในทุกระดับ มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

๕. ผลสัมฤทธิ์ของความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศ มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๐ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

9. เป้าประสงค์ของ ยุทธศาสตร์ที่ ๔  คืออะไร  และมีตัวชี้วัดเป้าประสงค์อย่างไร

ตอบ   เป้าประสงค์ ศาลยุติธรรมเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านกฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมที่มีมาตรฐานระดับสากล และมีองค์ความรู้เป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาค้นคว้า อ้างอิง

ตัวชี้วัดเป้าประสงค์

– ประชาชน หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีความเชื่อถือในมาตรฐานขององค์ความรู้และข้อมูลสารสนเทศต่าง ๆ ที่ได้รับจากศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านกฎหมายและการอำนวยความยุติธรรมของศาลยุติธรรม ในระดับ ๔ จากคะแนนเต็ม ๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

10. เป้าประสงค์ของ ยุทธศาสตร์ที่ ๔  คืออะไร  และมีตัวชี้วัดเป้าประสงค์อย่างไร

ตอบ  เป้าประสงค์ ศาลยุติธรรมมีระบบงานธุรการศาล และระบบงานส่งเสริมงานตุลาการ ที่มีมาตรฐานระดับสากลและมีขีดสมรรถนะสูงในการสนับสนุนการอำนวยความยุติธรรมให้ดำเนินไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว รวมทั้งมีระบบการให้บริการต้อนรับประชาชนที่มีคุณภาพสูงสุด

ตัวชี้วัดเป้าประสงค์

๑. ผลสัมฤทธิ์ของการยกระดับระบบงานธุรการศาล และระบบงานส่งเสริมงานตุลาการ ให้มีมาตรฐานระดับสากลและมีขีดสมรรถนะสูง มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

๒. ผลสัมฤทธิ์ของคุณภาพระบบการให้บริการต้อนรับประชาชน มีระดับความสำเร็จไม่ต่ำกว่าร้อยละ ๘๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐

3. ประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้การยอมรับในมาตรฐานของระบบงานธุรการศาล ในระดับ ๔.๕ จากคะแนนเต็ม ๕ ภายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๐